0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
รอๆๆตอนต่อไป ตอนที่ 4 ค่ะ
ขอบคุณครับ
ได้ความรู้มากเลยครับ จะรออ่านตอนต่อไป
เตรียมสอบท้องถิ่น ตอนที่ 3การขึ้นบัญชีและเงื่อนไขการใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้จากหลักเกณฑ์ใหม่นี้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่องๆ ไม่ว่าจะเป็น - การเมื่อได้รับการบรรจุแต่งตั้งแล้ว ต้องบรรจุทำงานอยู่อย่างน้อย 1 ปี ก่อนจึงจะทำเรื่องโอนย้ายได้- การใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ก็สามารถใช้ภายในกลุ่มจังหวัด / ภาค (ข้ามจังหวัดภายในกลุ่มจังหวัด/ภาคได้)- การขอใช้บัญชี (ขอรับรองบัญชี) หน่วยงานที่ขอใช้ ก็ต้องอยู่ในกลุ่มจังหวัดที่เป็นเจ้าของบัญชี ซึ่งจะมีรายละเอียด ดังนี้การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ตามหลักเกณฑ์ฯการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะเรียงลำดับที่จาก “ผู้สอบได้คะแนนสูงลงมาตามลำดับ” ในกรณีที่ผู้สอบแข่งขันได้คะแนนรวมเท่ากัน ผู้ที่สอบได้คะแนนภาค ค มากกว่า จะอยู่ในลำดับที่สูงกว่า แต่ถ้าคะแนนภาค ค. เท่ากันอีก ผู้ที่สอบได้คะแนนภาค ข. มากกว่า จะอยู่ในลำดับที่สูงกว่า แต่...ถ้าได้คะแนนภาค ข. เท่ากันอีก ผู้ที่สอบได้คะแนนภาค ก. มากกว่า จะอยู่ในลำดับที่สูงกว่า สุดท้ายถ้าคะแนนยังเท่ากันอีก จะให้ผู้ที่สมัครสอบก่อนอยู่ในลำดับที่สูงกว่า ซึ่งจะพิจารณาจากเอกสารการสมัครสอบ ดังนั้น การสมัครก่อน หรือหลัง ก็มีผลกับการเรียงลำดับในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นะครับเงื่อนไขการบรรจุแต่งตั้งการบรรจุแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้จากบัญชีผู้สอบแข่งขันนี้ ผู้นั้นต้องดำรงตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่บรรจุแต่งตั้งอย่างน้อย 1 ปีไม่มีข้อยกเว้น จึงจะโอนไปสังกัดหน่วยงานราชการอื่นได้ อนึ่งเมื่อจังหวัดเจ้าของบัญชีได้ส่งบุคคลใดไปเพื่อรับการบรรจุแต่งตั้งแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีสิทธิปฏิเสธที่จะรับผู้นั้นเข้ารับการบรรจุแต่งตั้งการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ ให้บรรจุและแต่งตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งนั้น หรือตำแหน่งอื่นที่กำหนดคุณวุฒิตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตรงกันกับคุณวุฒิที่ผู้นั้นนำมาสมัครสอบแข่งขัน และเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องเกื้อฉันลกัน ตามที่คณะกรรมการกลางข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นกำหนดโดยต้องเรียกบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้การรับโอนผู้สอบแข่งขันการรับโอนผู้สอบแข่งขันได้ซึ่งเป็นข้าราชการประเภทอื่นให้ระบุว่าจะรับโอนมาบรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งในระดับและการศึกษาเงินเดือนตามที่ประกาศไว้ เว้นแต่หน่วยดำเนินการสอบแข่งขัน จะประกาศเป็นการล่วงหน้าว่าจะรับโอนในตำแหน่งและระดับเดิมหรือเทียบเท่าไม่สูงกว่าระดับในระดับควบและอัตราเงินเดือนในขั้นที่ไม่สูงกว่าเดิมการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นพนักงานเทศบาลหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ให้บรรจุแต่งตั้งจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของเทศบาลหรือคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นเท่านั้นการเรียกใช้บัญชีหากสอบผ่าน จนมีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้น ในบัญชีฯจะมีอายุการใช้งานได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่ประกาศขึ้นบัญชี * ถ้า อบจ./เทศบาล/อบต. จัดสอบเอง บัญชีผู้สอบแข่งขันได้จะใช้ได้เฉพาะหน่วยงานที่จัดเท่านั้น หน่วยงานอื่นไม่สามารถขอใช้บัญชีได้* ถ้าคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) เป็นผู้จัดสอบ ในแบบรายกลุ่มจังหวัด / รายภาคนั้น บัญชีผู้สอบแข่งขันได้จะใช้ได้ในกลุ่มจังหวัดหรือภาคนั้น ยกตัวอย่างเช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 ได้แก่ 1.จังหวัดมุกดาหาร 2.จังหวัดยโสธร 3.จังหวัดร้อยเอ็ด 4.จังหวัดศรีสะเกษ 5.จังหวัดสุรินทร์ 6.จังหวัดอำนาจเจริญ 7.จังหวัดอุบลราชธานี การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้จะประกาศเป็นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 7 จังหวัดข้างต้นที่ร้องขอให้จัดการสอบและมีอัตรากำลังตำแหน่งว่าง สามารถขอใช้บัญชีได้ จึงจะทำให้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้สามารถใช้ข้ามจังหวัดได้ แต่ไม่สามารถใช้ข้ามภาคได้ ซึ่งแตกต่างจากหลักเกณฑ์เดิม จากจุดนี้ก่อให้เกิดผลดีในการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ทำให้โอกาสการเรียกใช้บัญชีมีมากขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม จะทำให้จำนวนผู้สอบแข่งขันนั้นมีจำนวนมากขึ้น ก่อให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นการอนุญาตให้ใช้บัญชี กรณีเทศบาลเป็นหน่วยดำเนินการสอบแข่งขัน ให้บรรจุแต่งตั้งได้เฉพาะเทศบาลนั้น ไม่อาจอนุญาตให้เทศบาลอื่นใช้บัญชีเพื่อบรรจุแต่งตั้งได้ การรับรองบัญชี กรณีคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขันสามารถอนุญาตให้เทศบาลอื่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่ประสงค์จะขอใช้บัญชีสอบแข่งขันดังกล่าวสามารถใช้บัญชีเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หรือตำแหน่งอื่นที่กำหนดคุณวุฒิตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตรงตามคุณวุฒิที่ผู้นั้นนำมาสมัครสอบแข่งขันแต่ต้องเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อฉันลกัน ตามที่คณะกรรมการกลางข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นกำหนด โดยต้องเรียกบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ซึ่งหน่วยงานที่ขอใช้บัญชีจะต้องมีพื้นที่อยู่ในภาค/เขตที่กำหนด * ทั้งนี้จะต้องดำเนินการหลังจากที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้ร้องขอให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขันแทนได้รับการบรรจุแต่งตั้งจนครบจำนวนแล้ว กรณีตำแหน่งที่จะบรรจุแต่งตั้งในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของภาค/เขตไม่มี หรือบรรจุแต่งตั้งครบทั้งบัญชีแล้ว ก็อาจใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งนั้นหรือตำแหน่งที่เกี่ยวข้องเกื้อฉันลกันของบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของภาค/เขตอื่นได้ตามที่คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นกำหนด>>> ตอนต่อไป : ตอนที่ 4 จะพูดถึงหลักการอ่านหนังสือเตรียมสอบ ภาค กโดย : ส.เสือแหล่งอ้างอิงข้อมูล
ขอขอบคุณพี่ ส เสือ มากมายเลยครับ ที่ให้ความรู้ ความกระจ่าง และชี้แนะให้เราเตรียมตัวในการสอบครั้งนี้ ^^
ขอบคุณมากครับ อ่านกันต่อไป
ขอบคุณมากคะ
เริ่มเข้าใจมากขึ้น ขอบคุณนะ M;1ค่ะ
ขอบคุณครับ...
ขอบคุณมากครับผม
ขอบคุณมากนะคะ รออ่านตอน 4 ค่ะ
thank a lot kub ^^
ขอบคุณมากครับ